Local Area Networks

เนื่องจากมีข้อมูลที่ต่างกัน Resources ที่ต่างกัน แต่มีการแบ่งปันทรัพยากรกัน จึงคิดระบบเชื่อมต่อที่มีการแชร์ข้อมูลและทรัพยากร
ในทางธุรกิจ จะดูผลประโยชน์ที่ได้รับ เช่น ความเร็ว ความยืดหยุ่น มีการแชร์ ทรัพยากร และ ลดต้นทุน
ในทางเทคนิค

          - การเข้าหาข้อมูล สามารถเชื่อมต่อจุดต่าง ๆ ได้ เข้าถึงได้ทุกจุด
          - เข้าได้กับอุปกรณ์หลาย ๆ อุปกรณ์ (มีความหลากหลาย)
          - มีความสามารถมีประสิทธิภาพและความเร็ว
          - มี Error หรือเกิด Error น้อยที่สุด
          - สามารถซ่อม ดูแลแก้ไขได้ Upgrades

Network คือ การเชื่อมต่ออุปกรณ์ คอมพิวเตอร์
LAN คือ การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เพื่อมีการแชร์ทรัพยากรและข้อมูล การต่อระบบ LAN จะต้องประกอบด้วย SERVER , NIC , PC , WIRE , HUB ในระบบ LAN มี 3 LEVEL ดังนี้
          Level 1 ใช้กับ MainFrame or Supercomputer จะมี Lan ที่มีความเร็วสูง
          Level 2 ใช้กับ MainFrame or Supercomputer แต่เป็น Low Speed Lan
          Level 3 ใช้กับ PC SERVER ส่วนใหญ่ Level นี้จะพบมากที่สุด
          Project 802 เป็นจุดเริ่มต้นของระบบ LAN ถูกคิดโดย IEEE โดยรวมระบบให้มีมาตราฐานเดียวกัน โดยใช้           OSI Model
          LLC : เกี่ยวข้องกับ Logical address ควบคุม DATA
          MAC : เกี่ยวข้องการขนส่งข้อมูล และ อุปกรณ์
          IEEE 802.3 หรือ Ethernet อยู่ใน Datalink กลไกในการดึงข้อมูลจะใช้วิธีการที่มีชื่อว่า CSMA/CD เป็นเทคนิคที่ลดการชนของข้อมูลการเข้าถึงข้อมูล

วิวัฒนาการของ CSMA/CD

MA ---> CSMA ---> CSMACD

หลาย ๆ station การเข้าถึงข้อมูล มีการส่งข้อมูลลื่นไหลมากขึ้น จะมีการตรวจสอบไม่ให้
พร้อม ๆ กัน ข้อมูลชนกัน

CSMA/CD มี Functions การทำงานดังนี้
          - Carrier Sense รอจังหวะของการหยุดและส่งสัญญาณ
          - Multiple Access ขณะที่มีการหยุดทุกคนจะมีสิทธิ์ที่จะส่งข้อมูล
          - Collision Detection ถ้ามีคนส่งอยู่ก็ให้หยุดรอจังหวะต่อไป

Ethernet จะมี 2 Categories
          1. Baseband ส่งแบบ Digital
          2. BroadBand ส่งแบบ Analog
          - 10 Base 5 (Thick Ethernet) จะใช้ Transceivertab เป็นตัวที่ต่อจาก BackBone
          - 10 Base - T จะใช้ RJ-45 Connector ต่อจาก Hub

Fast Ethernet พัฒนามาจาก Ethernet มีความเร็วสูง
ประสิทธิภาพดีใช้ Topology แบบ star และ MAC protocal
          100 Base - T4 ใช้สาย UTP (4 pairs/ 8 wires) 2คู่รับข้อมูล 2คู่ส่งข้อมูล เป็น hulf-duplex
          100 Base - TX ใช้สาย UTP 5 เป็น full-duplex
          100 Base - FX ใช้สาย fiber optics เป็น full-duplex

Hub เป็นอุปกรณ์กระจายสัญญาณ ถ้าเรานำ Hub ชนิดเดียวกันต่อกัน จะทำให้การส่งข้อมูลช้าลงไป 50% ระหว่าง Hub ควรต่อไม่เกิน 100 เมตร

Switch เป็น Hub ที่มีการแบ่ง Segment และแบ่งว่าแต่ละ Hub สามารถวิ่งได้เท่าไร Switch เป็น packet - switching ตัว switch เป็นตัวกำหนดและแบ่งว่าจะติดต่อกับ Server

Router เป็นอุปกรณ์ใน Interconnects network ทำหน้าที่หาเส้นทางที่ดีที่สุด router ใช้ logical address และ router จะกำหนดเส้นทางของข้อมูลโดยที่ router จะเก็บตารางของเส้นทาง นอกจากนี้ router ยังเป็นตัวเชื่อมกับภายนอกและต่อลง switching hub อีกที่หนึ่ง ซึ่ง router กับ switching จะทำงานร่วมกัน

Token Bus เนื่องจากอุปกรณ์แต่ละอุปกรณ์มีความต้องการ data rates ที่แตกต่างกัน ถ้าเราจะให้ทำงานภายใต้เครือข่ายเดียวกัน เราจะต้องทำงานแบบ token bus ซึ่ง token bus มี topology แบบ bus และ collision-free (ไม่มีการขนกันของข้อมูล)ซึ่งส่วนใหญ่ token bus จะใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมไม่มีใช้ในธุรกิจทั่วไป token bus เป็น logical ring ซึ่งไม่จำเป็นต้องต่อทุกเครื่อง

Token Ring ใช้ topology แบบ ring หลัการทำงานคือ ยอมให้แต่ละเครื่องส่งข้อมูลได้เครื่องละ 1 frame เท่านั้นต่อหนึ่งรอบ

FDDI เป็นรูปแบบมาตราฐานที่ใช้กับ LAN ถูกพัฒนาโดย ANSI และ ITU-U
FDDI support data rates up to 100 Mbps
FDDI ใช้สาย fiber optic และเป็น high speed LAN
CDDI เหมือน FDDI แต่ CDDI ใช้สาย copper